
2012 - A New Beginning for Peter: Changing to Varee Chiangmai School
Photo Gallery & Story
When Peter was six years old, I began to worry about his future.
He had spent two happy years at the local kindergarten and one year at the small village school near our home. But when I met Cop’s old classmates — teenagers from that same school — I realized that none of them could speak or even understand a single English sentence.
That discovery worried me deeply.
Peter already spoke good English for his age, and I feared that if he stayed there, he would lose what he had learned. I wanted him to keep developing and to one day have the confidence to explore the wider world.
So, as soon as the school year ended in March, I took him on my old motorbike to Chiang Mai city to look for a new school. We visited one that didn’t feel right, and then — almost by chance — arrived at Varee Chiangmai School. From the moment we walked through the gate, we were welcomed with warmth and kindness.
A teacher explained that the school’s annual English Camp had just begun — a one-month program to help children learn through fun and daily practice. Without hesitation, I signed Peter up.
The next morning, Peter began his first day at Varee.
The video below captures those unforgettable moments — our early morning ride from Doi Saket, our first visit, and Peter’s very first day at English Camp. The first five minutes show everything that mattered: a father’s hope, a young boy’s curiosity, and the beginning of a new chapter.
For the next year, I borrowed an old 20-year-old Mazda from Ann’s cousin so I could bring Peter safely to and from school. It was slow and often broke down, but it carried us faithfully every day. Then, in the following year, the Thai government introduced a program for first-time car owners, with special price reductions and payment plans. Thanks to that opportunity, Ann was able to buy a new Honda City on installments — the same car that still serves us today.
In those early years, my pension had just begun, and I could still manage Peter’s school fees. But when the Thai baht strengthened sharply and the Norwegian krone fell, my pension’s buying power was suddenly cut almost in half. It became difficult — sometimes nearly impossible — to keep up with the expenses of a good education.
And then something unforgettable happened.
Without me ever asking, my dear friends in Norway — Kari and Eilif — stepped forward. They saw the situation, understood the importance of Peter’s schooling, and quietly offered to help. Their generosity continued through the years and made it possible for Peter to stay at Varee, to grow, and eventually to dream far beyond the hills of Doi Saket.
Looking back, the decision to move Peter to Varee was one of the most important I have ever made.
It opened doors for him that would later lead to United World College in Africa, and eventually to St. Olaf College in the United States.
And through all those years, Kari and Eilif’s kindness made an extraordinary difference — not only in practical terms, but in the hope and security their friendship gave us. Their belief in Peter is a gift that words can hardly express.
การเยี่ยมครั้งแรก — วันที่โรงเรียนเปิดโลกใบใหม่ให้เรา
วิดีโอนี้บันทึกวันที่ผมไม่มีวันลืม — วันที่ผมกับปีเตอร์ไปเยี่ยมโรงเรียนวารีเชียงใหม่เป็นครั้งแรก
เรื่องราวเริ่มอย่างเรียบง่าย ที่สวนเล็ก ๆ ของเราที่ดอยสะเก็ด
ปีเตอร์ปีนขึ้นบนมอเตอร์ไซค์ โบกมือให้พี่โค แล้วเราก็ออกเดินทาง — แวะกินไอศกรีมก่อนออกเดินทางต่อ
ในตอนนั้น เรายังไม่รู้เลยว่าวันนี้จะสำคัญเพียงใด
เมื่อมาถึงประตูโรงเรียนและขี่รถผ่านเข้าไป ทุกอย่างดูสว่างสดใส อบอุ่น และเต็มไปด้วยความหวัง
ปีเตอร์ถามว่า “เรามาทำอะไรที่นี่ครับ?” — แล้วคำตอบก็ค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น
ผู้บริหารอาวุโสของโรงเรียนต้อนรับเราอย่างอบอุ่น และพาเราเดินชมรอบโรงเรียน
เธอนำเราเข้าไปในโบสถ์เล็ก ๆ ของโรงเรียน ซึ่งนักเรียนตัวน้อยนั่งเรียงกันเป็นแถว
เป็นวันเปิดค่ายภาษาอังกฤษประจำปีของวารี — เด็ก ๆ กำลังร้องเพลง ยิ้มแย้ม ร่าเริง และเปี่ยมด้วยพลัง
บรรยากาศช่างงดงามและสร้างแรงบันดาลใจ
ขณะที่ผมยืนมองปีเตอร์ซึมซับทุกอย่าง ผมก็รู้ในทันทีว่า
เราพบอนาคตของเขาแล้ว
ไม่นาน ปีเตอร์ก็ถูกวัดตัวสำหรับชุดนักเรียนชุดแรกของเขา — พร้อมปักชื่อบนทุกตัว
เราได้สมัครให้เขาเข้าค่ายภาษาอังกฤษ และลงทะเบียนเรียนชั้นปีแรกที่นี่
เมื่อถึงเวลากลับ เราเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากโรงเรียน
ปีเตอร์ที่ตื่นเต้นทั้งวันหลับไปอย่างหมดแรงบนมอเตอร์ไซค์ระหว่างทางกลับบ้าน
ในตอนนั้น ผมก็รู้สิ่งหนึ่งเพิ่มขึ้นอีกอย่าง:
เราต้องยืมรถแล้ว
เพราะการเดินทางของปีเตอร์ เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
วันที่เรียบง่ายวันนั้น
ได้เปลี่ยนทุกอย่าง
เราได้พบโรงเรียนที่ไม่เพียงเปิดประตูสู่การเรียนรู้
แต่เปิดประตูสู่โลกใบกว้างให้เขาด้วย
วันที่เราพบโรงเรียนวารีเชียงใหม่
จากสวนของเราที่ดอยสะเก็ด สู่ประตูโรงเรียนวารี — การขี่รถธรรมดาเพียงครั้งเดียวที่เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล
ในชั้นประถมปีที่ 1 ปีเตอร์ฉลองวันเกิดครบ 7 ขวบกับเพื่อนใหม่ของเขา
โดยมีแอนและโคช่วยเตรียมเค้กให้ 🎂


สถานที่ที่ความใฝ่รู้ได้โบยบิน
สำหรับครอบครัวของเรา โรงเรียนวารีเชียงใหม่คือมากกว่าสถานศึกษา — เพราะที่นี่คือจุดเริ่มต้นที่อนาคตของปีเตอร์ค่อย ๆ เปิดออก
ท่ามกลางต้นไม้ ลานกว้าง และบรรยากาศการเรียนรู้อันแสนอบอุ่น เขาได้ค้นพบไม่เพียงแค่ความก้าวหน้าทางวิชาการ แต่รวมถึงความมั่นใจ เป้าหมาย และความสุขในการเรียนรู้ด้วย
เช้าวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2565 ผมเดินผ่านบริเวณโรงเรียนและบันทึกวิดีโอสั้น ๆ ไว้
วันนั้นเงียบมาก — ไม่มีนักเรียน ไม่มีเสียงพูดคุย ไม่มีเสียงหัวเราะ — เนื่องจากมาตรการป้องกันโควิด-19
แม้ไร้เสียงผู้คน ความงดงามของโรงเรียนกลับเด่นชัดยิ่งขึ้น เหมือนสวนอันสงบเงียบที่กำลังรอเสียงชีวิตกลับมาอีกครั้ง
วันนั้น มีนักเรียนเพียงสองคนอยู่ในโรงเรียน — ปีเตอร์และเพื่อนร่วมชั้นหนึ่งคน
พวกเขามาเพื่อภารกิจพิเศษ: นำเสนอผลงานวิจัยทางดาราศาสตร์แบบออนไลน์สดเป็นภาษาอังกฤษต่อสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) ในการแข่งขันระดับประเทศ
หัวข้อโครงงานของปีเตอร์คือ:
“การศึกษาคาบการโคจรของดาวเคราะห์นอกระบบ WASP-43b โดยใช้วิธี Transit”
เขาไม่ได้รับรางวัล — แต่เข้าใกล้มาก และไม่นานหลังจากนั้น เขาได้รับเชิญให้นำเสนองานอีกครั้ง — เป็นภาษาอังกฤษ — ในการประชุมวิชาการดาราศาสตร์แห่งประเทศไทยครั้งที่ 7
สำหรับความทุ่มเทของเขา ปีเตอร์ได้รับประกาศนียบัตรจาก NARIT — ช่วงเวลาที่ครอบครัวเราภูมิใจอย่างยิ่ง
ผมเชื่ออย่างลึกซึ้งว่า ความมุ่งมั่นของปีเตอร์ในด้านดาราศาสตร์ รวมถึงโอกาสที่ได้รับจากโรงเรียนวารีเชียงใหม่ ได้ช่วยปูเส้นทางสู่การได้รับทุนการศึกษา United World Colleges ในเวลาต่อมา
โรงเรียนแห่งนี้ไม่ได้มอบเพียงความรู้ให้ลูกชายของเรา — แต่ยังมอบพื้นที่ให้เขาได้ฝัน สำรวจ และเติบโตอีกด้วย


ประกาศนียบัตรจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT)
หนึ่งในโรงเรียนที่สวยที่สุดในประเทศไทย!


โรงเรียนของปีเตอร์: โรงเรียนวารีเชียงใหม่
โรงเรียนวารีเชียงใหม่ของปีเตอร์เป็นโรงเรียนที่มีประวัติความเป็นมาน่าประทับใจและอบอุ่นใจ ซึ่งผมอยากแบ่งปันให้ทุกท่านทราบ ปีเตอร์ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนวารีเชียงใหม่ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังจากนั้นเขาได้รับคัดเลือกจากโครงการ United World Colleges (UWC) ให้ไปศึกษาต่อสองปีสุดท้ายของระดับมัธยมปลายที่ Waterford Kamhlaba UWC College ในประเทศเอสวาตินี ทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา
ผู้ก่อตั้งโรงเรียนวารีเชียงใหม่คือ อาจารย์วารี ผู้เป็นครูที่มีหัวใจงดงามและเปี่ยมด้วยความเมตตา เธอเริ่มต้นด้วยการเปิดโรงเรียนอนุบาลเล็ก ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ความอบอุ่น ความทุ่มเท และความเอาใจใส่ของเธอทำให้เธอได้รับความรักและความไว้วางใจจากเด็ก ๆ และผู้ปกครองอย่างรวดเร็ว และเมื่อเด็ก ๆ รุ่นแรกเรียนจบอนุบาล ผู้ปกครองก็ไม่อยากให้ลูกย้ายไปเรียนที่อื่น พวกเขาขอร้องให้อาจารย์วารีเปิดระดับประถมศึกษาเพื่อให้ลูก ๆ ได้เรียนต่อภายใต้การดูแลของเธอ
ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยเมตตาและความตั้งใจดี อาจารย์วารีจึงตัดสินใจเปิดชั้นประถมศึกษาชั้นแรก และนั่นคือจุดเริ่มต้นของโรงเรียนวารีเชียงใหม่
ปัจจุบัน อาจารย์วารีเป็นที่รักและเคารพของศิษย์จำนวนมาก ทั้งศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน ปีเตอร์เองก็รู้สึกภูมิใจมากที่ได้เป็นหนึ่งในนั้น จากสิ่งที่ผมได้เห็นและสัมผัส โรงเรียนวารีเชียงใหม่ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ดีที่สุดและสวยที่สุดในประเทศไทย
ขอเรียนเชิญทุกท่านชมวิดีโอด้านล่าง หากท่านกำลังวางแผนมาอยู่เชียงใหม่พร้อมครอบครัว และกำลังมองหาโรงเรียนดี ๆ ให้บุตรหลานเหมือนที่ผมเคยทำเพื่อปีเตอร์ ผมขอแนะนำให้มาเยี่ยมชมโรงเรียนวารีเชียงใหม่ด้วยตนเอง
และขอเพิ่มเติมว่า ภายในบริเวณเดียวกันนั้นมีสองโรงเรียนที่อาจารย์วารีก่อตั้ง คือ
-
โรงเรียนนานาชาติวารีเชียงใหม่ (Varee Chiangmai International School)
-
โรงเรียนวารีเชียงใหม่ (Varee Chiangmai School) ซึ่งเป็นโรงเรียนไทยที่ปีเตอร์ได้ศึกษาอยู่เป็นเวลา 10 ปี















