
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการสังคมของนอร์เวย์ คุณเกรเต้ คนุตเซน เป็นประธานเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินแห่งใหม่สำหรับผู้สูงอายุที่เมืองแบร์เกน ที่นี่ผมกำลังอธิบายขั้นตอนการรับสายฉุกเฉิน
เส้นทางชีวิตในนอร์เวย์ (พ.ศ. 2490–2536) ก่อนเริ่มต้นบทใหม่ในเมืองไทย
ผมเกิดในเดือนมกราคม ปีพ.ศ. 2490 ที่เมืองสตาวังเงร์ เมืองชายฝั่งทางตะวันตกของนอร์เวย์ที่งดงาม เพียงไม่นานหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง พ่อแม่ของผมหมั้นกันมาหลายปีแล้ว แต่สงครามทำให้ต้องเลื่อนแผนออกไป พ่อของผมรับราชการเป็นกัปตันเรือตลอดช่วงสงคราม โดยเริ่มจากเส้นทางแอตแลนติก และต่อมาแปซิฟิก บนเรือบรรทุกน้ำมันของนอร์เวย์ เมื่อญี่ปุ่นยอมจำนน ท่านจึงสามารถกลับบ้านและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในยามสงบ
ผมเติบโตในกรุงออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์ และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก BI Norwegian Business School ในปีพ.ศ. 2515 ต่อมา ผมมีโอกาสเข้าร่วมหลักสูตรบริหารจัดการที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มอบทั้งแรงบันดาลใจและมุมมองใหม่ในการเริ่มต้นธุรกิจของตนเองในบ้านเกิด
บริษัทแรกของผมมุ่งเน้นด้านการป้องกันอัคคีภัย โดยผมเป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกในนอร์เวย์ที่แนะนำเครื่องตรวจจับควันแบบใช้แบตเตอรี่สำหรับที่อยู่อาศัย ต่อมาไม่นาน รัฐสภานอร์เวย์ก็ได้ออกกฎหมายให้การติดตั้งอุปกรณ์นี้เป็นข้อบังคับ
เมื่อธุรกิจเครื่องตรวจจับควันเริ่มอิ่มตัว ผมจึงหันไปทำภารกิจใหม่ที่มีความหมายส่วนตัวมากยิ่งขึ้น นั่นคือ การช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเอง ผมเริ่มพัฒนาระบบเตือนภัยทางการแพทย์ที่ให้ผู้สูงอายุสามารถขอความช่วยเหลือฉุกเฉินได้เพียงกดปุ่ม โดยระบบนี้ผสานการทำงานระหว่างเครื่องส่งสัญญาณขนาดเล็กที่ผู้ใช้งานสวมไว้ และเครื่องโทรศัพท์อัตโนมัติที่สามารถโทรแจ้งศูนย์ช่วยเหลือ
เพื่อนำแนวคิดนี้สู่ความเป็นจริง ผมแสวงหาผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจากทั่วทวีปยุโรป ผมพบทีมที่เชี่ยวชาญด้านคลื่นวิทยุขนาดเล็กในอังกฤษตอนเหนือ และเทคโนโลยีโทรคมนาคมในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ซึ่งผมได้เข้าซื้อห้องทดลองของบริษัท Becker Telecommunicatie ที่ล้มละลายไปแล้ว และก่อตั้งบริษัทขึ้นที่เนเธอร์แลนด์เพื่อดูแลงานวิจัยและพัฒนา
การพัฒนาระบบใช้เวลานานถึง 7 ปี เต็มไปด้วยอุปสรรคมากมาย กว่าจะพร้อมผลิตในระดับอุตสาหกรรม โดยการผลิตต่อมาได้รับความร่วมมือจากบริษัท Radofin Electronics ในฮ่องกง
ในปีพ.ศ. 2528 ผมเปิดศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงในกรุงออสโล เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพัง ตลอด 7 ปีต่อมา บริการของเราขยายจนกลายเป็นศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยมีการรับสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉินทุกๆ 30 นาที ทั้งกลางวันและกลางคืน
ในปีพ.ศ. 2535 รัฐบาลนอร์เวย์ได้ติดต่อเสนอซื้อกิจการของผมเพื่อขยายบริการไปทั่วประเทศ ผมตกลงและเริ่มความร่วมมืออย่างอบอุ่นและสร้างสรรค์กับภาครัฐ ตามเงื่อนไขของสัญญา ผมตกลงทำหน้าที่ที่ปรึกษาพิเศษแก่รัฐบาลเป็นเวลา 3 ปี เพื่อดูแลการจัดตั้งระบบช่วยเหลือฉุกเฉินระดับประเทศ
น่าแปลกใจที่งานทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในเวลาเพียง 1 ปี และตามสัญญา ผมสามารถเดินทางไปต่างประเทศในสถานะ “พร้อมให้คำปรึกษา” โดยยังคงได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน
หนึ่งในช่วงเวลาที่ผมภาคภูมิใจที่สุด คือเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการสังคมของนอร์เวย์ คุณ Grete Knutsen เป็นประธานเปิดบริการระดับชาติ ณ ศูนย์ฉุกเฉินแห่งใหม่ในเมืองเบอร์เกน และในภาพถ่ายพิธีเปิดนั้น คุณจะเห็นผมกำลังสาธิตระบบการรับสัญญาณแจ้งเหตุ — เป็นช่วงเวลาที่แสดงถึงจุดสูงสุดของความพยายามหลายปี
และหลังจากนั้น… ก็เป็นครั้งแรกที่ผมเดินทางมาเมืองไทย — จุดเริ่มต้นของบทใหม่ในชีวิตอย่างแท้จริง